เที่ยวชมธรรมชาติ เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตั้งอยู่บริเวณชายแดน 3 จังหวัด ได้แก่ อำเภอด่านซ้าย จังหวัดเลย อำเภอนครไทย จังหวัดพิษณุโลก และอำเภอหล่มสัก จังหวัดเพชรบูรณ์ มีเนื้อที่ประมาณ 191,875 ไร่ ประกาศเป็นอุทยานแห่งชาติเมื่อวันที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2527 มีธรรมชาติที่สวยงามแปลกตาและยังเป็นดินแดนแห่งประวัติศาสตร์การสู้รบครั้งใหญ่อันเกิดจากความขัดแย้งทางอุดมการณ์และความคิดทางการเมือง . อุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเป็นอุทยานแห่งชาติแห่งเดียวในประเทศไทย ซึ่งรักษาประวัติศาสตร์การสู้รบและความสวยงามทางธรรมชาติที่สมบูรณ์ ภูมิอากาศของภูหินร่องกล้าคล้ายกับภูกระดึงและภูหลวงเนื่องจากมีความสูงในระดับเดียวกัน อากาศหนาวเย็นเกือบตลอดทั้งปี โดยเฉพาะในฤดูหนาวจะมีอุณหภูมิประมาณ 4 องศาเซลเซียส และในฤดูร้อนอากาศจะเย็นสบาย ฝนตกมากในฤดูฝน อุณหภูมิเฉลี่ยตลอดปีประมาณ 18-25 องศาเซลเซียส

 

แหล่งท่องเที่ยวที่น่าสนใจในเขต เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

 

เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า   เนื่องจากอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้าเป็นอุทยานประวัติศาสตร์ซึ่งมีสภาพธรรมชาติที่สวยงามแตกต่างจากอุทยานแห่งชาติทั่วไป ดังนั้น จุดน่าสนใจต่างๆ จึงแบ่งเป็น 2 ประเภท คือ อุทยานประวัติศาสตร์ ได้แก่ สถานที่ที่เคยเป็น นักพัฒนาเลวคอมมิวนิสต์เคยใช้เป็นที่อยู่อาศัยและเป็นสถานที่ประกอบกิจกรรมต่างๆ

ประวัติศาสตร์
1. พิพิธภัณฑ์การต่อสู้
(ศูนย์บริการนักท่องเที่ยว) ใกล้ที่ทำการอุทยานฯ. เป็นสถานที่จัดแสดงนิทรรศการเกี่ยวกับการต่อสู้ มีกราฟข้อมูล เครื่องมือแพทย์ อาวุธ เอกสารเผยแพร่ลัทธิคอมมิวนิสต์ รวมถึงนิทรรศการเกี่ยวกับธรรมชาติของภูหินร่องกล้า นอกจากนี้ยังมีห้องประชุมขนาดความจุ 80 ท่าน ใช้สำหรับบรรยายสรุปหรือสัมมนาและเป็นจุดติดต่อขอข้อมูลการท่องเที่ยวในอุทยานแห่งชาติ

2. โรงเรียนการเมืองการทหาร
ตั้งอยู่ที่หลักกิโลเมตรที่ 4 เป็นป่ารกทึบ พ.ศ. 2513 เป็นที่ตั้งของคณะกรรมการอำเภอใน 3 จังหวัด คือ จังหวัดเลย จังหวัดเพชรบูรณ์ และ จังหวัดพิษณุโลก ในปี พ.ศ. 2520 ได้จัดตั้งเป็นโรงเรียนจัดการศึกษาตาม ไปจนถึงสไตล์คอมมิวนิสต์ หากไปเที่ยวในเดือนมกราคมจะพบกับบรรยากาศของใบเมเปิลเปลี่ยนสีและร่วงหล่นในบ้านไม้หลังเก่าที่สวยงามคล้ายกับต่างประเทศ

3. เครื่องเติมอากาศ
หน้าโรงเรียนการเมืองการทหาร เป็นกังหันน้ำขนาดใหญ่ เกิดจากการผสมผสานความคิดทางวิชาการที่ก้าวหน้าเข้ากับการใช้ประโยชน์จากธรรมชาติของนักศึกษาวิศวกรรมศาสตร์ที่เข้าร่วมกับ พคท. หลังเหตุการณ์ 6 ตุลาคม 2519 สำนักงานอำนาจรัฐตั้งอยู่ทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ของอุทยานฯ ประมาณ 3 กิโลเมตร เป็น สถานที่ดำเนินการบริหาร ผู้ฝ่าฝืนจะถูกพิจารณาและลงโทษ หรือละเมิดกฎของลัทธิ มีคุกไว้ขังอาชญากร มีที่ถักและร้านซ่อมเครื่องกลหลงเหลืออยู่

4. โรงพยาบาลรัฐ
อยู่ห่างจากที่ว่าการไปทางทิศเหนือประมาณ 2 กิโลเมตร เป็นโรงพยาบาลกลางป่าที่มีทีมแพทย์เกือบครบ ทั้งห้องจ่ายยา ห้องพักฟื้น และห้องผ่าตัด โรงพยาบาลแห่งนี้ก่อตั้งขึ้นในปี พ.ศ. 2519 ทำการรักษาพยาบาลได้ดี โดยเฉพาะการผ่าตัด สามารถผ่าตัดได้ทุกอวัยวะยกเว้นหัวใจ แพทย์และพยาบาลจบการศึกษาจากหลักสูตรเร่งรัดในประเทศจีนในปี พ.ศ. 2522 มีการเพิ่มแผนกทันตกรรมและการวิจัยยา และเครื่องมือส่วนใหญ่ที่ใช้ในเมืองแห่งการรักษาก็มีการฝังเข็มด้วย และใช้สมุนไพร

5. ลานเอนกประสงค์
เป็นลานหินขนาดใหญ่ อยู่ก่อนถึงสำนักงานอำนาจรัฐใช้เป็นที่พักผ่อน และสังสรรค์ในหมู่สมาชิกในโอกาสสำคัญต่างๆ

6. สุสาน
เป็นที่ฝังศพของนักสู้ของกองทัพปลดปล่อยไทย (ทท.) ที่เสียชีวิตในการต่อสู้กับกองกำลังของรัฐบาล ส่วนใหญ่จะอยู่บริเวณใกล้เคียงกับพื้นที่อเนกประสงค์หลบภัยทางอากาศ เป็นสถานที่หลบภัยจากการทิ้งระเบิดทางอากาศของฝ่ายรัฐบาล ส่วนใหญ่เป็นซอกหินหรือถ้ำที่ซ่อนตัวอยู่ในแนวต้นไม้ใหญ่ ซึ่งทำให้ยากต่อการตรวจสอบอากาศ มีหลายแห่ง แต่เปิดให้นักท่องเที่ยวเข้าชม 2 แห่ง คือ ห่างจากโรงเรียนการเมืองการทหาร ประมาณ 200 เมตร มีลักษณะเป็นถ้ำขนาดใหญ่ มีซอกเล็กซอกน้อยที่ซับซ้อนซึ่งจุคนได้ถึง 500 คน และอีกซอกหนึ่งอยู่ที่ทางเข้าสำนักงานพลังงานของรัฐ หลืบขนาดใหญ่จุคนได้ประมาณ 200 คน

7. เมืองมวลชน
เป็นที่อยู่อาศัยของมวลชน มีหมู่บ้านมากมาย เช่น หมู่บ้านดาวแดง หมู่บ้านดาวฉาย แต่ละหมู่บ้านมีประมาณ 40-50 หลัง ตั้งเรียงรายอยู่ในป่าริมถนนที่ตัดจากอำเภอหล่มเก่า ลักษณะบ้านเป็นบ้านไม้หลังเล็กๆ ไม่ยกพื้นสูง หลังคามุงด้วยไม้กระดานบางๆ กันน้ำฝนได้ด้วย และยังมีที่หลบระเบิดอีกด้วย

 

ด้านธรรมชาติที่สวยงาม

 

1. ลานหินแตก
ห่างจากฐานพัชรินทร์ประมาณ 300 เมตร มีลักษณะเป็นลานหินมีเนื้อที่ประมาณ 40 ไร่ รอยแตกบางส่วนมีลักษณะแคบ ขนาดพอให้คนเดินผ่านได้ แต่บางเส้นทางก็กว้างจนคุณไม่สามารถกระโดดข้ามเพื่อไปถึงได้ อย่างนี้สันนิษฐานว่าน่าจะเกิดจากการเบี่ยงเบนหรือเคลื่อนตัวของผิวโลก ทำให้พื้นหินแตกเป็นแนว นอกจากนี้ ลานหินแตกยังปกคลุมไปด้วยตะไคร่น้ำ ตะไคร่น้ำ ไลเคน เฟิร์น และกล้วยไม้ชนิดต่างๆ

2. ลานหินปุ่ม
อยู่ห่างจากที่ทำการอุทยานฯ ประมาณ 4 กิโลเมตร อยู่บริเวณริมหน้าผา คุณสมบัติของลานหิน มีก้อนหินก้อนกลมขนาดพอๆ กัน ซึ่งเชื่อว่าเกิดจากการผุกร่อนตามธรรมชาติของหิน ในอดีตบริเวณนี้ใช้เป็นห้องพักฟื้นของผู้ป่วยในโรงพยาบาลเพราะอยู่บนหน้าผามีลมพัดเย็นสบาย

3. ผาชูธง
อยู่ห่างจากลานหินปุ่มประมาณ 500 เมตร เป็นหน้าผาสูงชัน สามารถมองเห็นวิวได้กว้างไกลโดยเฉพาะวิวพระอาทิตย์ตกที่สวยงามไม่แพ้จุดชมวิวอื่น ๆ ที่นี่เคยเป็นที่แม่ทัพจะขึ้นไปชูธงแดง (ค้อน เคียว) ทุกครั้งที่รบชนะ

4. น้ำตกร่มเกล้า-ภราดร
อยู่ห่างจาก Escuela Política y Militar ประมาณ 600 เมตร และจากชิงช้าสวรรค์จะมีทางแยกลงไปที่น้ำตก ระยะทางประมาณ 400 เมตร จะถึงน้ำตกร่มเกล้าก่อน แล้วเดินต่อลงไปอีกประมาณ 200 เมตร ถึงน้ำตกภราดร ลักษณะคล้าย น้ำตกร่มเกล้า เกิดจากลำธารเดียวกันแต่มีความสูงน้อยกว่าและกระแสน้ำแรงกว่า

5. น้ำตกศรีพัชรินทร์
น้อมรำลึกถึงทหารหาญค่ายศรีพัชรินทร์ ขอนแก่น ทหารชุดแรกที่ไปถึงคือน้ำตกศรีพัชรินทร์ ภูหินร่องกล้า สูงประมาณ 20 เมตร ลักษณะคล้ายน้ำตกเหวสุวัตที่เขาใหญ่แต่เล็กกว่าบริเวณน้ำตก มีแอ่งน้ำใหญ่เหมาะแก่การเล่นน้ำ

7. น้ำตกผาลาด
อยู่บริเวณด้านล่างของหน่วยพิทักษ์ห้วยน้ำใส ทางเข้าจะผ่านหมู่บ้านชาวเขาเผ่าม้ง บ้านห้วยน้ำใส ทางเข้าเขื่อนผลิตไฟฟ้าพลังน้ำการไฟฟ้าแห่งชาติ จากสี่แยกไป ประมาณ 2 กม. จะเจอสามแยกซ้ายมือ ลงไปอีกประมาณ 50 เมตรก็จะถึงน้ำตก และแม่น้ำสายใหญ่ แม้จะเป็นน้ำตกที่ไม่สูงนัก แต่มีน้ำมากตลอดทั้งปี ดังนั้นการพลังงานแห่งชาติจึงมีการสร้างเขื่อนเพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า ใช้ใกล้เคียง

8. น้ำตกตาดฟ้า
เป็นน้ำตกที่สูงมากในเขตอุทยานฯ ปัจจุบันไม่มีทางเดินเข้าสู่ตัวน้ำตก ต้องเดินทางต่อไปตามถนนลูกรังประมาณ 1 กิโลเมตร แล้วเดินตามทางในป่าประมาณ 300 เมตร ก็จะได้ยินเสียงน้ำตก เดินตามเสียงไปไม่นานก็ถึงยอดน้ำตกแล้วต้องลงไปตามทางเล็กๆเพื่อชมความงามของน้ำตกตาดฟ้า หรือ มีชื่อเรียกพื้นเมืองว่าน้ำตกด่านโกสัง แปลว่า น้ำตกขัดค้อ ด่านค้อกับกอไผ่ซาง.

 

สิ่งอำนวยความในอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า

 

เที่ยวอุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ปัจจุบันมีบ้านพักบริการ 9 หลัง พักได้หลังละ 5-7 คน ราคา 1,000-1,600 บาท/คืน และเต็นท์พักได้ 20 คน ราคา 1,000 บาท/คืน มีแคมป์ สถานบริการนักท่องเที่ยว ร้านอาหาร และลานกางเต็นท์ให้บริการ
จุดติดต่ออุทยานแห่งชาติภูหินร่องกล้า ตู้ ปณ. 3 อ.นครชัย จ.พิษณุโลก 65120 โทร. 0-5523-3527
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ ส่วนอุทยานแห่งชาติ สำนักอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติ กรมป่าไม้ เลขที่ 61 ถนนพหลโยธิน
จตุจักร กรุงเทพฯ 10900 โทร. 0-2579-7223, 0-2579-5734 หรือ 0-2561-4292-4 ต่อ 723,725

 

บทความแนะนำ